หน้าหลัก
รายละเอียดของคอร์ส
เกี่ยวกับการปฏิบัติ
ระเบียบปฏิบัติในคอร์ส
สิ่งของและการเตรียมตัว
สถานที่ปฏิบัติ
การชำระเงิน
เกณฑ์การรับสมัคร
คำถามที่พบบ่อย
ตารางการปฏิบัติ
ตารางการปฏิบัติปี 2568
ตารางการปฏิบัติปี 2567
เกี่ยวกับเรา
กลุ่มเพื่อนรู้สึกตัว
เกี่ยวกับหลวงพ่อเทียน
ธรรมทาน
Article
หน้าหลัก
ธรรมทาน
พฤษภาคม
2568
6 พ.ค. 68
18 พ.ค. 68
19 พ.ค. 68
22 พ.ค. 68
วันนี้มีโอกาสได้สนทนาธรรมกับอาจารย์ท่านหนึ่ง
ซึ่งกรุณามาช่วยดูแลระหว่างการติดตามรักษามะเร็งของข้าพเจ้า
ระหว่างนั่งรอพบแพทย์ เราได้พูดคุยกันเรื่อง ”ความรู้สึก“ หรือเวทนา ซึ่งน่าสนใจมาก
จึงอยากนำมาเพิ่มเติมเพื่อแบ่งปันไว้
ด้วยภาษาชาวบ้านเข้าใจง่าย
ความรู้สึก (เวทนา) มี 3 แบบ
รู้สึกดี, รู้สึกไม่ดี, รู้สึกเฉย ๆ
เมื่อความรู้สึกใดเกิดขึ้น ใจเรามักจะ “ไม่หยุดอยู่เฉย ๆ”
ถ้ารู้สึกดี → ก็อยากให้มันอยู่นาน ๆ
ถ้ารู้สึกแย่ → ก็อยากให้มันหาย
ถ้าเฉย ๆ → ก็มักอยากหาอะไรมากระตุ้นให้รู้สึกอะไรสักอย่าง
แม้แต่ “ความเฉย ๆ” ที่ดูไม่มีอะไร ก็ยังผลักใจให้ “อยาก”
นี่แหละ… จุดเริ่มของความอยาก และความดิ้นรนที่ตามมา
แล้วความรู้สึก “เฉย ๆ” แบบเวทนา กับ “เฉย ๆ” แบบมีสติ รู้ตัว ต่างกันอย่างไร?
เฉยแบบอารมณ์เฉย คือ เฉยแบบไม่รู้ตัว
เช่น นั่งอยู่เงียบ ๆ แต่ใจไม่รู้ตัวว่ากำลังเฉย มันแค่ไม่มีสิ่งเร้ามากระตุ้น
ดูเหมือนสงบ แต่ลึก ๆ แล้วพร้อมจะดิ้นทันทีที่มีอะไรมากระทบ
พูดให้เห็นภาพมันคืออารมณ์แบบ “เฉย ๆ ไม่รู้จะทำอะไร”
แล้วมันก็…
• หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
• เปิด YouTube
• โทรหาเพื่อน
• อยากไปเที่ยว
/////
เฉยแบบมีสติ “รู้ตัว”
นั่งอยู่ในห้องเดียวกัน แต่ใจรู้ว่าไม่ได้เข้าไปในความคิด ไม่ได้เป็นอะไร
หรือ
- มีเสียงดังมา แต่ใจรู้แล้วไม่ไปตาม ไม่ขัด ไม่ตีความ
- มีเวทนาเกิดขึ้น แต่ใจไม่เอียงไปข้างใด ไม่ยึด ไม่ต่อต้าน ไม่ไปกับความคิดปรุงแต่งนั้น ใจไม่เข้าไปเป็นอะไรกับมันเลย แค่รู้เฉย ๆ
เมื่อใจวางเฉยด้วยปัญญา ใจก็หลุดจากการดิ้นรนโดยไม่ต้องหนีอะไรเลย
นั่นจึงเรียกว่าเป็นการตัดวงจรการเข้าสู่ความทุกข์ ความเดือดร้อน นั่นเอง
อ.บี กลุ่มเพื่อนรู้สึกตัว
19 พ.ค. 68